โปรแกรมที่ไว้จับภาพหน้าจอ อยู่แนะนำโปรแกรมนี้เลยครับ “Snagit” ความสามารถของโปรแกรม Snagitนี้มันมีมากเหลือกเกิน ให้บรรยายความสามารถของโปรแกรมนี้คงยาวไปหลายหน้าครับขอ อธิบายสั้นๆเกี่ยวกับโปรแกรมSnagit และกันนะครับว่าหลักๆไว้ทำอะไรบ้างโปรแกรม Snagit หลักๆเลยคือเอาไว้จับภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา แต่เท่านั้นยังไม่พอ Snagit ยังสามารถตกแต่งรูปภาพได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการใส่ตัวอักษร ใส่รูป ลูกศร หรือใส่คำบรรยายต่างๆ รวมไปถึงยังสามารถตัดรูปภาพ ลบส่วนเกินได้อีกด้วย และก็ยังใส่เอฟเฟคให้กับรูปภาพได้อีกด้วยครับ และสามารถ Save เป็นไฟล์อื่นๆได้อีกหลยไฟล์เลยครับ หรือที่ชอบอีกอย่างเวลาเราจะจับภาพเว็บไซต์ที่มีความยาวเกินหน้าจอเราโปรแกรม Snagit ก็ยังสามารถจัดได้ไม่มีปัญหาเรื่องเกินหน้า โปรแกรม Snagit มันจะจัดการเลื่อนให้เราเองเพียงแค่เราสั่งแค่คลิกเดียวเท่่านั้นพอ

SnagIt 8.2.1 ดาวน์โหลดได้ที่นี่... http://download.techsmith.com/snagit/enu/snagitup.exe
เมื่อติดตั้ง SnagIt แล้ว เปิดโปรแกรมครั้งแรกจะเห็นหน้าต่างแบบ Normal View ก็ให้เลือกที่ View
เปลี่ยนเป็น Classic View
Classic View หน้าตาเป็นแบบนี้น่ะ...
ก่อนอื่นเราก็ต้อง Set ค่าต่างๆของโปรแกรมก่อน ไปที่ Tool เลือก Program Preferences...
Global Capture Hotkey (ปุมลัดที่จะจับภาพหน้าจอ) ก็เลือกเป็นปุ่ม Print Screen
(หรือปุ่มอะไรก็ได้แล้วแต่ถนัดน่ะ) แล้วกด Apply.
แล้วก็ดูที่ Program Options Set ตามที่ต้องการ...(เลือกเหมือนเดิมก็ได้)
ต่อมาก็ดูที่ Input
แรกๆเลือกใช้เป็น Screen ก่อนก็ได้ ใช้พอเป็นแล้วถึงค่อยเลือกอย่างอื่นน่ะ (ของเราเลือกเป็น Object
จับรูปเฉพาะส่วนน่ะ)
แล้วก็ดูที่ Properties ต่อเลยนะ...
เลือกตรงนี้น่ะ จะจับรูปภาพที่มีไฟล์เมนูได้ (แบบที่เราทำน่ะ...)
แล้วก็ไปดูที่ Output เลือกว่า Save to File น่ะ แล้วก็เลือก Preview Window ด้วย
(พอจับรูปแล้วมันจะมีหน้าต่างนึงให้เราดูรูปที่เราเพิ่งทำน่ะ ถ้าไม่ชอบก็กดทิ้งได้โดยไม่ต้อง Save)
เสร็จแล้วก็ดูที่ Properties น่ะ เลือกเอาว่าจะ Save ภาพเป็นไฟล์อะไร โดยทั่วไปใช้เป็นไฟล์ Gif
จะดีกว่า (ใช้เป็น Jpg แล้วบางทีสีอาจจะเพี้ยนน่ะ)
แล้วก็เลือก Output Folder น่ะว่าจะเก็บภาพไว้ที่ไหน และก็เลือกเป็น Automatic File Name มันจะ Save
รูปให้เราอัตโนมัติน่ะ (เช่น Snag_000.gif)
วิธีจับรูปภาพ ก็กดปุ่มที่ Set ไว้ในตอนแรก (ปุ่มPrintScrn) เพื่อจับรูปภาพหน้าจอที่ต้องการ
อันนี้คือเวลาเราจับรูปภาพแล้ว มีหน้าต่าง Preview ให้น่ะ เราก็สามารถตกแต่งรูปเพิ่มเติมได้เลยน่ะ
เสร็จแล้วก็กด Finish (File) ได้เลยน่ะ มันจะ Save รูปให้เราเองเลย
เมื่อจับภาพหน้าจอได้แล้ว ยังมีวิธีแก้ไขภาพอีก..ใหเลือกที่ View เปลี่ยน Classic View
ให้เป็นหน้าต่างแบบ Normal View
หากต้องการแก้ไขรูปนั้นๆ ก็ให้ไปที่ File >>> Open เลือกรูปที่ต้องการขึ้นมา แล้วเลือก Snagit
Editor จะทำให้สามารถใส่ตัวหนังสือ วงกลม สัญลักษณ์ อื่นๆได้ และถ้าต้องการย่อ-ขยายไฟล์ ก็ให้เลือก
Resize Image เลือกย่อภาพลงเป็น % (เพื่อลดขนาดภาพสำหรับส่งขึ้นเว็บ) เส็รจแล้วก็ Save AS
ใส่ชื่อซะเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
<< การใช้ SnagIt จับภาพให้เป็นไฟล์วีดีโอ >>เขียนโดย คุณ Ood55
<< การใช้ SnagIt จับภาพให้เป็นไฟล์วีดีโอ >>
<< การใช้ SnagIt จับภาพให้เป็นไฟล์วีดีโอ >>
ใช้เมาส์คลิกไปทีหนึ่ง แล้วลากกรอบสี่เหลี่ยมไว้
จะได้รูปกรอบสี่เหลี่ยมนี้จะกระพริบอยู่
ถ้าจะเริ่มถ่ายหนังก็คลิกตรงนี้ Start
เริ่มถ่ายหนัง กรอบสี่เหลี่ยมจะกระพริบ
เอาเมาส์ไปคลิกตรงมุมตามรูป จะถ่ายอะไรก็คลิกเมาส์เรื่อยไปยังที่เราต้องการถ่าย
หากต้องการจะหยุด ให้มองมาทางด้านล่างมุมขวา จะมีรูปวีดีโอกระพริบอยู่ ดับเบิ้ลคลิกที่รูปวีดีโอ
ตามรูป กด Stop
เมื่อติดตั้ง SnagIt แล้ว เปิดโปรแกรมครั้งแรกจะเห็นหน้าต่างแบบ Normal View ก็ให้เลือกที่ View
เปลี่ยนเป็น Classic View
Classic View หน้าตาเป็นแบบนี้น่ะ...
ก่อนอื่นเราก็ต้อง Set ค่าต่างๆของโปรแกรมก่อน ไปที่ Tool เลือก Program Preferences...
Global Capture Hotkey (ปุมลัดที่จะจับภาพหน้าจอ) ก็เลือกเป็นปุ่ม Print Screen
(หรือปุ่มอะไรก็ได้แล้วแต่ถนัดน่ะ) แล้วกด Apply.
แล้วก็ดูที่ Program Options Set ตามที่ต้องการ...(เลือกเหมือนเดิมก็ได้)
ต่อมาก็ดูที่ Input
แรกๆเลือกใช้เป็น Screen ก่อนก็ได้ ใช้พอเป็นแล้วถึงค่อยเลือกอย่างอื่นน่ะ (ของเราเลือกเป็น Object
จับรูปเฉพาะส่วนน่ะ)
แล้วก็ดูที่ Properties ต่อเลยนะ...
เลือกตรงนี้น่ะ จะจับรูปภาพที่มีไฟล์เมนูได้ (แบบที่เราทำน่ะ...)
แล้วก็ไปดูที่ Output เลือกว่า Save to File น่ะ แล้วก็เลือก Preview Window ด้วย
(พอจับรูปแล้วมันจะมีหน้าต่างนึงให้เราดูรูปที่เราเพิ่งทำน่ะ ถ้าไม่ชอบก็กดทิ้งได้โดยไม่ต้อง Save)
เสร็จแล้วก็ดูที่ Properties น่ะ เลือกเอาว่าจะ Save ภาพเป็นไฟล์อะไร โดยทั่วไปใช้เป็นไฟล์ Gif
จะดีกว่า (ใช้เป็น Jpg แล้วบางทีสีอาจจะเพี้ยนน่ะ)
แล้วก็เลือก Output Folder น่ะว่าจะเก็บภาพไว้ที่ไหน และก็เลือกเป็น Automatic File Name มันจะ Save
รูปให้เราอัตโนมัติน่ะ (เช่น Snag_000.gif)
วิธีจับรูปภาพ ก็กดปุ่มที่ Set ไว้ในตอนแรก (ปุ่มPrintScrn) เพื่อจับรูปภาพหน้าจอที่ต้องการ
อันนี้คือเวลาเราจับรูปภาพแล้ว มีหน้าต่าง Preview ให้น่ะ เราก็สามารถตกแต่งรูปเพิ่มเติมได้เลยน่ะ
เสร็จแล้วก็กด Finish (File) ได้เลยน่ะ มันจะ Save รูปให้เราเองเลย
เมื่อจับภาพหน้าจอได้แล้ว ยังมีวิธีแก้ไขภาพอีก..ใหเลือกที่ View เปลี่ยน Classic View
ให้เป็นหน้าต่างแบบ Normal View
หากต้องการแก้ไขรูปนั้นๆ ก็ให้ไปที่ File >>> Open เลือกรูปที่ต้องการขึ้นมา แล้วเลือก Snagit
Editor จะทำให้สามารถใส่ตัวหนังสือ วงกลม สัญลักษณ์ อื่นๆได้ และถ้าต้องการย่อ-ขยายไฟล์ ก็ให้เลือก
Resize Image เลือกย่อภาพลงเป็น % (เพื่อลดขนาดภาพสำหรับส่งขึ้นเว็บ) เส็รจแล้วก็ Save AS
ใส่ชื่อซะเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
<< การใช้ SnagIt จับภาพให้เป็นไฟล์วีดีโอ >>เขียนโดย คุณ Ood55
<< การใช้ SnagIt จับภาพให้เป็นไฟล์วีดีโอ >>
<< การใช้ SnagIt จับภาพให้เป็นไฟล์วีดีโอ >>
ใช้เมาส์คลิกไปทีหนึ่ง แล้วลากกรอบสี่เหลี่ยมไว้
จะได้รูปกรอบสี่เหลี่ยมนี้จะกระพริบอยู่
ถ้าจะเริ่มถ่ายหนังก็คลิกตรงนี้ Start
เริ่มถ่ายหนัง กรอบสี่เหลี่ยมจะกระพริบ
เอาเมาส์ไปคลิกตรงมุมตามรูป จะถ่ายอะไรก็คลิกเมาส์เรื่อยไปยังที่เราต้องการถ่าย
หากต้องการจะหยุด ให้มองมาทางด้านล่างมุมขวา จะมีรูปวีดีโอกระพริบอยู่ ดับเบิ้ลคลิกที่รูปวีดีโอ
ตามรูป กด Stop
6.โปรแกรมจับหน้าจอ
6.1snagit
โปรแกรมที่ไว้จับภาพหน้าจอ อยู่แนะนำโปรแกรมนี้เลยครับ “Snagit” ความสามารถของโปรแกรม Snagitนี้มันมีมากเหลือกเกิน ให้บรรยายความสามารถของโปรแกรมนี้คงยาวไปหลายหน้าครับขอ อธิบายสั้นๆเกี่ยวกับโปรแกรมSnagit และกันนะครับว่าหลักๆไว้ทำอะไรบ้างโปรแกรม Snagit หลักๆเลยคือเอาไว้จับภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา แต่เท่านั้นยังไม่พอ Snagit ยังสามารถตกแต่งรูปภาพได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการใส่ตัวอักษร ใส่รูป ลูกศร หรือใส่คำบรรยายต่างๆ รวมไปถึงยังสามารถตัดรูปภาพ ลบส่วนเกินได้อีกด้วย และก็ยังใส่เอฟเฟคให้กับรูปภาพได้อีกด้วยครับ และสามารถ Save เป็นไฟล์อื่นๆได้อีกหลยไฟล์เลยครับ หรือที่ชอบอีกอย่างเวลาเราจะจับภาพเว็บไซต์ที่มีความยาวเกินหน้าจอเราโปรแกรม Snagit ก็ยังสามารถจัดได้ไม่มีปัญหาเรื่องเกินหน้า โปรแกรม Snagit มันจะจัดการเลื่อนให้เราเองเพียงแค่เราสั่งแค่คลิกเดียวเท่่านั้นพอ
การใช้โปรแกรม SnagIt 7
SnagIT เป็นโปรแกรมสําหรับใช้ capture ของข้อมูลจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้มี
ความสามารถเพิ่มขึ้นได้แก้
1. จับภาพจากหน้าจอ (Capture Image)
2. จับเฉพาะตัวอักษร (Capture Text)
3. จับภาพเคลื่อนไหว (Capture Video)
4. จับภาพจากเว็บไซต์ (Capture Web)

6.2 winsnap
6.1snagit
โปรแกรมที่ไว้จับภาพหน้าจอ อยู่แนะนำโปรแกรมนี้เลยครับ “Snagit” ความสามารถของโปรแกรม Snagitนี้มันมีมากเหลือกเกิน ให้บรรยายความสามารถของโปรแกรมนี้คงยาวไปหลายหน้าครับขอ อธิบายสั้นๆเกี่ยวกับโปรแกรมSnagit และกันนะครับว่าหลักๆไว้ทำอะไรบ้างโปรแกรม Snagit หลักๆเลยคือเอาไว้จับภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา แต่เท่านั้นยังไม่พอ Snagit ยังสามารถตกแต่งรูปภาพได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการใส่ตัวอักษร ใส่รูป ลูกศร หรือใส่คำบรรยายต่างๆ รวมไปถึงยังสามารถตัดรูปภาพ ลบส่วนเกินได้อีกด้วย และก็ยังใส่เอฟเฟคให้กับรูปภาพได้อีกด้วยครับ และสามารถ Save เป็นไฟล์อื่นๆได้อีกหลยไฟล์เลยครับ หรือที่ชอบอีกอย่างเวลาเราจะจับภาพเว็บไซต์ที่มีความยาวเกินหน้าจอเราโปรแกรม Snagit ก็ยังสามารถจัดได้ไม่มีปัญหาเรื่องเกินหน้า โปรแกรม Snagit มันจะจัดการเลื่อนให้เราเองเพียงแค่เราสั่งแค่คลิกเดียวเท่่านั้นพอ
การใช้โปรแกรม SnagIt 7
SnagIT เป็นโปรแกรมสําหรับใช้ capture ของข้อมูลจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้มี
ความสามารถเพิ่มขึ้นได้แก้
1. จับภาพจากหน้าจอ (Capture Image)
2. จับเฉพาะตัวอักษร (Capture Text)
3. จับภาพเคลื่อนไหว (Capture Video)
4. จับภาพจากเว็บไซต์ (Capture Web)
6.2 winsnap
WinSnap เป็นโปรแกรมเสริมที่มีขาดไฟล์ไม่ใหญ่นักใช้สำหรับจับภาพหน้าจอเดสท๊อปของเรารวมถึงสามารถแก้ไขตกแต่งภาพดังกล่าวได้ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่มีขนาดเล็กและสามารถกำหนดรูปแบบโปร่งแสงในการบันทึกได้ทำให้คนที่ชอบสะสมโปรแกรมฟรีแวร์ต่างๆเหล่านี้ดาวน์โหลดมาใช้งานกันเป็นจำนวนมาก WinSnap มาพร้อมกับการทำงานที่เป็นอัตโนมัติพร้อมกับการทำงานในทุกเมื่อ ไม่เสียพื้นที่ในการติดตั้งมากสักเท่าไร จนทำให้ WinSnap ได้มาการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆเพื่อแสดงศักยภาพออกมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้หลายกลุ่ม
สำหรับการทำงานของ WinSnap มีรูปร่างหน้าตาที่พอดีกับขนาดของจอทำให้ภาพที่ออกมาครอบคลุมรายละเอียดบนจอได้อย่างครบคัน ไฟล์ที่ถูกบันทึกออกมานั้นจะอยู่ในรูปของไฟล์ PNG และสามารถนำภาพที่ได้จากการบันทึกนั้นไปตกแต่งให้เสร็จภายในโปรแกรมเดียว รองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดว์ทุกรูปแบบ โดยจะแสดงเมนูเครื่องมือของโปรแกรมไว้ที่ด้านล้างตรงแถบ start ทำให้ไม่รกหูรกตาผู้ใช้งานอีกทั้งยังควบคุมได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะสามารถบันทึกภาพหน้าจอได้แล้วยังสามารถบันทึกเป็นไฟล์วิดีโอได้อีกด้วย โปรแกรมเดียวครบครันเลยเช่นกัน
WinSnap เหมาะสำหรับครูอาจารย์ หรือผู้ที่ต้องการถ่ายทอดความรู้ ทักษะต่างๆที่ต้องใช้ความสามารถมาก โดยทำให้ง่ายขึ้นโดยใช้โปรแกรม WinSnap ในการผลิตสื่อเพื่อถ่ายทอดสามารถผลิตได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นไฟล์ภาพและไฟล์วิดีโอเป็นต้น ด้วยพื้นที่โปรแกรมที่มีขนาดเล็ก สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ได้ง่าน ทำให้เป็นโปรแกรมอันดับต้นๆที่มีการดาวน์โหลดไปใช้งานในการสร้างสื่อการเรียนการสอนมากที่สุดอีกโปรแกรมหนึ่ง
สำหรับการทำงานของ WinSnap มีรูปร่างหน้าตาที่พอดีกับขนาดของจอทำให้ภาพที่ออกมาครอบคลุมรายละเอียดบนจอได้อย่างครบคัน ไฟล์ที่ถูกบันทึกออกมานั้นจะอยู่ในรูปของไฟล์ PNG และสามารถนำภาพที่ได้จากการบันทึกนั้นไปตกแต่งให้เสร็จภายในโปรแกรมเดียว รองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดว์ทุกรูปแบบ โดยจะแสดงเมนูเครื่องมือของโปรแกรมไว้ที่ด้านล้างตรงแถบ start ทำให้ไม่รกหูรกตาผู้ใช้งานอีกทั้งยังควบคุมได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะสามารถบันทึกภาพหน้าจอได้แล้วยังสามารถบันทึกเป็นไฟล์วิดีโอได้อีกด้วย โปรแกรมเดียวครบครันเลยเช่นกัน
WinSnap เหมาะสำหรับครูอาจารย์ หรือผู้ที่ต้องการถ่ายทอดความรู้ ทักษะต่างๆที่ต้องใช้ความสามารถมาก โดยทำให้ง่ายขึ้นโดยใช้โปรแกรม WinSnap ในการผลิตสื่อเพื่อถ่ายทอดสามารถผลิตได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นไฟล์ภาพและไฟล์วิดีโอเป็นต้น ด้วยพื้นที่โปรแกรมที่มีขนาดเล็ก สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ได้ง่าน ทำให้เป็นโปรแกรมอันดับต้นๆที่มีการดาวน์โหลดไปใช้งานในการสร้างสื่อการเรียนการสอนมากที่สุดอีกโปรแกรมหนึ่ง
ก่อนที่เราจะใช้งานโปรแกรม ให้ไปตั้งค่าในส่วนต่างๆก่อน
เปิดโปรแกรมขึ้นมา ไปที่ Option > setting แล้วตั้งค่าตามผมได้เลยครับ



ตรงนี้คือส่วนของเอฟเฟกต่างๆ ที่จะใส่ลงไปบนภาพ

Shadow = เงาของภาพ
Reflection = เงาสะท้อนของภาพ
Contour = ขอบสี ขอบเส้น
Rotate = การหมุน
Watermark = ลายน้ำ (ใส่ลิขสิทธิ์)
Resize = ย่อขนาดภาพ
เปิดโปรแกรมขึ้นมา ไปที่ Option > setting แล้วตั้งค่าตามผมได้เลยครับ



ตรงนี้คือส่วนของเอฟเฟกต่างๆ ที่จะใส่ลงไปบนภาพ

Shadow = เงาของภาพ
Reflection = เงาสะท้อนของภาพ
Contour = ขอบสี ขอบเส้น
Rotate = การหมุน
Watermark = ลายน้ำ (ใส่ลิขสิทธิ์)
Resize = ย่อขนาดภาพ
โปรแกรมอรรถประโยชน์
5.โปรแกรมแต่งภาพ
5.1 photoscape
โปรแกรมแต่งรูปภาพที่ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือสาหรับแต่งภาพครบครัน ที่สาคัญเป็นโปรแกรมฟรีอีกด้วย โปรแกรมมีขนาดเล็ก ไม่กินทรัพยากรของเครื่องมากเมื่อเทียบกับโปรแกรมแต่งภาพอื่น ปัจจุบันโปรแกรม Photoscape มีเวอร์ชั่นภาษาไทย ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น คุณสมบัติของ Photoscape นอกจากใช้ตกแต่งภาพแล้ว ยังสามารถทำภาพนิ่งให้เป็นภาพเคลื่อนไหว (GIF Animation) ได้อีกด้วย
5.1 photoscape
โปรแกรมแต่งรูปภาพที่ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือสาหรับแต่งภาพครบครัน ที่สาคัญเป็นโปรแกรมฟรีอีกด้วย โปรแกรมมีขนาดเล็ก ไม่กินทรัพยากรของเครื่องมากเมื่อเทียบกับโปรแกรมแต่งภาพอื่น ปัจจุบันโปรแกรม Photoscape มีเวอร์ชั่นภาษาไทย ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น คุณสมบัติของ Photoscape นอกจากใช้ตกแต่งภาพแล้ว ยังสามารถทำภาพนิ่งให้เป็นภาพเคลื่อนไหว (GIF Animation) ได้อีกด้วย
ติดตั้งโปรแกรม Photoscape
1.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ PhotoScapeSetup_V3.3 เพื่อเริ่มต้นการติดตั้งโปรแกรม

2.หน้าต่างต้อนรับการติดตั้งโปรแกรม คลิก Next >

3. แสดงข้อตกลงในการใช้งานโปรแกรม คลิก I Agree

4. ตั้งค่าการติดตั้ง ในส่วนนี้เลือก Next >

5. เลือกปลายทางการติดตั้งโปรแกรม(เลือกตามที่โปรแกรมกำหนดมาให้) คลิก Next >

6. ติดตั้ง Google Toolbar (ถ้าเพื่อนๆไม่ต้องการให้ติ๊กตรง Install Google Toolbar ออก) จากนั้น คลิก Install เพื่อติดตั้งโปรแกรม

7. โปรแกรมกำลังติดตั้ง รอสักครู่……

8. โปรแกรมติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ สามารถเริ่มโปรแกรมได้ทันที

9. หน้าตาของโปรแกรมหลังจากติดตั้งเสร็จ

5.2 photoedit
โปรแกรมอรรถประโยชน์
4.โปรแกรมตัดต่อ
4.1 audacity
โปรแกรม Audacity เป็นโปรแกรมตัดต่อเสียงที่ได้รับความนิยมโปรแกรมหนึ่ง เนื่องจากใช้งานได้ง่ายและยังเป็น Freeware อีกด้วย จึงสามารถหาดาวโหลดมาใช้งานได้อย่างถูกกฏหมาย Audacity ยังมีความสามารถในการตัดต่อเสียงได้ไม่แพ้โปรแกรมตัดต่อเสียง
ราคาแพงอื่นๆ เลย เช่น การซ้อนเสียง ตัดเพลงเฉพาะท่อน การลดระดับเสียง เป็นต้น
วิธีใช้งานเบื้องต้นของโปรแกรม Audacity
ในหัวข้อนี้เราจะทําการ Import ไฟล์เสียง .mp3 เข้ามา แล้วทําการ Selection ให้โปรแกรมเล่นไฟล์เสียงเฉพาะช่วงที่เราทําการ
เลือกไว้เท่านั้น
1. ทําการ Import ไฟล์เสียง .mp3 เข้ามาในโปรแกรม โดยไปที่ File > Import > Audio…
2. เลือกไฟล์เสียงที่ต้องการ แล้วเลือก Open National Science Museum, THAILAND
3. เมื่อ Import ไฟล์เสียงเข้ามาเรียบร้อย ให้ใช้เครื่องมือ Selection Tool ทําการเลือกช่วงเสียงเฉพาะช่วงที่ต้องการให้โปรแกรม
เล่นเท่านั้น
4. ในระหว่างนี้เราจะทดลองใช้ Zoom Tool ด้วย โดยการคลิกซ้ายที่พื้นที่เสียงที่เราเลือกไว้ โปรแกรมจะทําการ Zoom in (ขยาย
ขนาด) และถ้าเราคลิกขวา โปรแกรมก็จะทําการ Zoom out (ย่อขนาด) รูปคลื่นเสียงของเรา
5. หลังจากนั้นให้เลือก Play ที่เมนูด้านบน โปรแกรมจะทําการเล่นไฟล์เสียงเฉพาะส่วนที่เราเลือกไว้เท่านั้น (ส่วนที่เป็นสีเทาเข้ม)

4.2 ulead video studio
Ulead Video Studio 11 เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่มีการใช้งานไม่ยากจนเกินไป แม้ผู้ที่เริ่มใช้งานก็สามารถที่จะสร้างวีดีโอได้เหมือนกับผู้ที่มี ประสบการณ์ตัดต่อวีดีโอมานาน โปรแกรมนี้มีเครื่องมือต่างๆ สำหรับตัดต่อวีดีโออย่างครบถ้วน เริ่มตั้งแต่จับภาพจากกล้องเข้าคอมพิวเตอร์ ตัดต่อวีดีโอ ใส่เอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ แทรกดนตรีประกอบ แทรกคำบรรยาย ไปจนถึงบันทึกวีดีโอที่ตัดต่อกลับลงเทป, VCD, DVD หรือแม้กระทั่งเผยแพร่ผลงานทางเว็บ
โปรแกรม Ulead มีการทำงานเป็นขั้นตอนที่ง่าย ตั้งแต่จับภาพ ตัดต่อไปจนถึงเขียนลงแผ่น นอกจากนี้แล้ว โปรแกรมยังมีเอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ อีกมากมาย ไตเติ้ลสำเร็จรูปแบบมืออาชีพ รวมทั้งยังมีเครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้างซาวนด์แทร็คอย่างง่ายๆ อีกด้วย
ในการสร้างวีดีโอนั้น เริ่มแรกจับภาพวีดีโอจากกล้องหรือว่าดึงไฟล์วีดีโอจากแผ่น VCD/DVD เข้ามา จากนั้นก็ตัดแต่งวีดีโอที่จับภาพมา เรียงลำดับเหตุการณ์ ใส่ทรานสิชั่น (transtion - เอ็ฟเฟ็กต์ที่ใส่ระหว่างคลิปวีดีโอ ทำให้การเปลี่ยนคลิปวีดีโอจากคลิปหนึ่งไปยังอีกคลิปหนึ่งน่าดูยิ่งขึ้น) ทำภาพซ้อนภาพ ใส่ไตเติ้ล ใส่คำบรรยาย แทรกดนตรีประกอบ ซึ่งส่วนต่างๆ เหล่านี้จะแยกแทร็คกัน การทำงานในแต่ละแทร็คจะไม่มีผลกระทบกับกับแทร็คอื่นๆ เมื่อทำเสร็จแล้วขั้นตอนสุดท้ายก็คือ การเขียนวีดีโอลงแผ่น
การตัดต่อใน Ulead นั้น จะสร้างเป็นไฟล์ project ขึ้นมา (.VSP) ซึ่งไฟล์นี้จะเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ หากว่าทำงานยังไม่เสร็จก็สามารถเปิดเพื่อทำงานต่อในภายหลังได้ ไฟล์นี้จะมีขนาดเล็ก การตัดต่อวีดีโอนี้ แม้จะตัดต่ออย่างไรในวีดีโอ ก็จะไม่มีผลกระทบต่อไฟล์ต้นฉบับ ข้อมูลการตัดต่อต่างๆ จะบันทึกอยู่ในไฟล์ project ทั้งหมด แต่เมื่อมีการสร้างวีดีโอที่ได้จากการตัดต่อ โปรแกรมอ่านข้อมูลจากต้นฉบับตามข้อมูลที่อ้างอิงในไฟล์
4.1 audacity
โปรแกรม Audacity เป็นโปรแกรมตัดต่อเสียงที่ได้รับความนิยมโปรแกรมหนึ่ง เนื่องจากใช้งานได้ง่ายและยังเป็น Freeware อีกด้วย จึงสามารถหาดาวโหลดมาใช้งานได้อย่างถูกกฏหมาย Audacity ยังมีความสามารถในการตัดต่อเสียงได้ไม่แพ้โปรแกรมตัดต่อเสียง
ราคาแพงอื่นๆ เลย เช่น การซ้อนเสียง ตัดเพลงเฉพาะท่อน การลดระดับเสียง เป็นต้น
วิธีใช้งานเบื้องต้นของโปรแกรม Audacity
ในหัวข้อนี้เราจะทําการ Import ไฟล์เสียง .mp3 เข้ามา แล้วทําการ Selection ให้โปรแกรมเล่นไฟล์เสียงเฉพาะช่วงที่เราทําการ
เลือกไว้เท่านั้น
1. ทําการ Import ไฟล์เสียง .mp3 เข้ามาในโปรแกรม โดยไปที่ File > Import > Audio…
2. เลือกไฟล์เสียงที่ต้องการ แล้วเลือก Open National Science Museum, THAILAND
3. เมื่อ Import ไฟล์เสียงเข้ามาเรียบร้อย ให้ใช้เครื่องมือ Selection Tool ทําการเลือกช่วงเสียงเฉพาะช่วงที่ต้องการให้โปรแกรม
เล่นเท่านั้น
4. ในระหว่างนี้เราจะทดลองใช้ Zoom Tool ด้วย โดยการคลิกซ้ายที่พื้นที่เสียงที่เราเลือกไว้ โปรแกรมจะทําการ Zoom in (ขยาย
ขนาด) และถ้าเราคลิกขวา โปรแกรมก็จะทําการ Zoom out (ย่อขนาด) รูปคลื่นเสียงของเรา
5. หลังจากนั้นให้เลือก Play ที่เมนูด้านบน โปรแกรมจะทําการเล่นไฟล์เสียงเฉพาะส่วนที่เราเลือกไว้เท่านั้น (ส่วนที่เป็นสีเทาเข้ม)

4.2 ulead video studio
Ulead Video Studio 11 เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่มีการใช้งานไม่ยากจนเกินไป แม้ผู้ที่เริ่มใช้งานก็สามารถที่จะสร้างวีดีโอได้เหมือนกับผู้ที่มี ประสบการณ์ตัดต่อวีดีโอมานาน โปรแกรมนี้มีเครื่องมือต่างๆ สำหรับตัดต่อวีดีโออย่างครบถ้วน เริ่มตั้งแต่จับภาพจากกล้องเข้าคอมพิวเตอร์ ตัดต่อวีดีโอ ใส่เอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ แทรกดนตรีประกอบ แทรกคำบรรยาย ไปจนถึงบันทึกวีดีโอที่ตัดต่อกลับลงเทป, VCD, DVD หรือแม้กระทั่งเผยแพร่ผลงานทางเว็บ
โปรแกรม Ulead มีการทำงานเป็นขั้นตอนที่ง่าย ตั้งแต่จับภาพ ตัดต่อไปจนถึงเขียนลงแผ่น นอกจากนี้แล้ว โปรแกรมยังมีเอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ อีกมากมาย ไตเติ้ลสำเร็จรูปแบบมืออาชีพ รวมทั้งยังมีเครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้างซาวนด์แทร็คอย่างง่ายๆ อีกด้วย
ในการสร้างวีดีโอนั้น เริ่มแรกจับภาพวีดีโอจากกล้องหรือว่าดึงไฟล์วีดีโอจากแผ่น VCD/DVD เข้ามา จากนั้นก็ตัดแต่งวีดีโอที่จับภาพมา เรียงลำดับเหตุการณ์ ใส่ทรานสิชั่น (transtion - เอ็ฟเฟ็กต์ที่ใส่ระหว่างคลิปวีดีโอ ทำให้การเปลี่ยนคลิปวีดีโอจากคลิปหนึ่งไปยังอีกคลิปหนึ่งน่าดูยิ่งขึ้น) ทำภาพซ้อนภาพ ใส่ไตเติ้ล ใส่คำบรรยาย แทรกดนตรีประกอบ ซึ่งส่วนต่างๆ เหล่านี้จะแยกแทร็คกัน การทำงานในแต่ละแทร็คจะไม่มีผลกระทบกับกับแทร็คอื่นๆ เมื่อทำเสร็จแล้วขั้นตอนสุดท้ายก็คือ การเขียนวีดีโอลงแผ่น
การตัดต่อใน Ulead นั้น จะสร้างเป็นไฟล์ project ขึ้นมา (.VSP) ซึ่งไฟล์นี้จะเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ หากว่าทำงานยังไม่เสร็จก็สามารถเปิดเพื่อทำงานต่อในภายหลังได้ ไฟล์นี้จะมีขนาดเล็ก การตัดต่อวีดีโอนี้ แม้จะตัดต่ออย่างไรในวีดีโอ ก็จะไม่มีผลกระทบต่อไฟล์ต้นฉบับ ข้อมูลการตัดต่อต่างๆ จะบันทึกอยู่ในไฟล์ project ทั้งหมด แต่เมื่อมีการสร้างวีดีโอที่ได้จากการตัดต่อ โปรแกรมอ่านข้อมูลจากต้นฉบับตามข้อมูลที่อ้างอิงในไฟล์
Ulead นั้นก็สามารถที่จะจับภาพแบบ analog ได้เช่นกัน ในกรณีนี้ คุณจะต้องหาการ์ดจับภาพเช่นการ์ดรับโทรทัศน์ที่เป็นแบบ analog มาใช้งาน การใช้งานนั้นก็เหมือนกับการ firewire นั่นแหล่ะครับ
ส่วนติดต่อกับผู้ใช้
1. Step Panel
กลุ่มของปุ่มที่ใช้สลับไปมาในขั้นตอนต่างๆ ของการตัดต่อวีดีโอ เช่น ต้องการจับภาพจากกล้องวีดีโอก็คลิกปุ่ม Capture หากต้องการแก้ไข/ตัดต่อวีดีโอ คลิกปุ่ม Edit ต้องการใส่ข้อความในวีดีโอ คลิกปุ่ม Title เป็นต้น
กลุ่มของปุ่มที่ใช้สลับไปมาในขั้นตอนต่างๆ ของการตัดต่อวีดีโอ เช่น ต้องการจับภาพจากกล้องวีดีโอก็คลิกปุ่ม Capture หากต้องการแก้ไข/ตัดต่อวีดีโอ คลิกปุ่ม Edit ต้องการใส่ข้อความในวีดีโอ คลิกปุ่ม Title เป็นต้น
2. Menu Bar
แถบเมนูของชุดคำสั่งต่างๆ เช่น สร้างโครงการใหม่ เปิดโครงการ บันทึกโครงการ เป็นต้น
แถบเมนูของชุดคำสั่งต่างๆ เช่น สร้างโครงการใหม่ เปิดโครงการ บันทึกโครงการ เป็นต้น
3. Options Panel
ส่วนนี้จะมี ปุ่มและข้อมูลอื่นๆ ที่ให้คุณได้ปรับแต่งคลิปที่คุณเลือกไว้ ฟังชั่นก์ต่างๆ ในส่วนนี้จะเปลี่ยนไปตามขั้นตอนที่คุณกำลังทำงานอยู่ เช่น คุณเลือกคลิปวีดีโอ ก็จะมีฟังก์ชั่นต่างๆ สำหรับจัดการกับคลิปวีดีโอ หรือคุณเลือกเสียง ก็จะมีฟังก์ชั่นสำหรับการจัดการเรื่องเสียง เป็นต้น
ส่วนนี้จะมี ปุ่มและข้อมูลอื่นๆ ที่ให้คุณได้ปรับแต่งคลิปที่คุณเลือกไว้ ฟังชั่นก์ต่างๆ ในส่วนนี้จะเปลี่ยนไปตามขั้นตอนที่คุณกำลังทำงานอยู่ เช่น คุณเลือกคลิปวีดีโอ ก็จะมีฟังก์ชั่นต่างๆ สำหรับจัดการกับคลิปวีดีโอ หรือคุณเลือกเสียง ก็จะมีฟังก์ชั่นสำหรับการจัดการเรื่องเสียง เป็นต้น
4. Preview Window
หน้าต่างแสดงคลิปปัจจุบัน, ตัวกรองวีดีโอ, เอฟเฟ็กต์, หรือตัวหนังสือ ต้องการดูผลลัพธ์ของการตัดต่อต่างๆ สามารถดูได้ในหน้าต่างนี้
หน้าต่างแสดงคลิปปัจจุบัน, ตัวกรองวีดีโอ, เอฟเฟ็กต์, หรือตัวหนังสือ ต้องการดูผลลัพธ์ของการตัดต่อต่างๆ สามารถดูได้ในหน้าต่างนี้
5. Navigation Panel
มีปุ่มสำหรับเล่นคลิปวีดีโอและสำหรับตัดวีดีโอ ในขั้นตอนการจับภาพ, ส่วนนี้จะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ควบคุมกล้องวีดีโอ เช่น เล่นวีดีโอ หยุด หยุดชั่วขณะ กรอไปข้างหน้า กรอกลับ เป็นต้น
มีปุ่มสำหรับเล่นคลิปวีดีโอและสำหรับตัดวีดีโอ ในขั้นตอนการจับภาพ, ส่วนนี้จะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ควบคุมกล้องวีดีโอ เช่น เล่นวีดีโอ หยุด หยุดชั่วขณะ กรอไปข้างหน้า กรอกลับ เป็นต้น
6. Library
เก็บและรวบรวมทุกอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็น วีดีโอ, เสียง, ภาพนิ่ง, เอฟเฟ็กต์ต่างๆ เป็นต้น ทำให้สะดวกในการเรียกใช้งาน
เก็บและรวบรวมทุกอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็น วีดีโอ, เสียง, ภาพนิ่ง, เอฟเฟ็กต์ต่างๆ เป็นต้น ทำให้สะดวกในการเรียกใช้งาน
7. Timeline
แสดงคลิป, ตัวหนังสือและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ที่อยู่ในโครงการ
แสดงคลิป, ตัวหนังสือและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ที่อยู่ในโครงการ
Step Panel
ส่วนนี้เป็นส่วนของขั้นตอนต่างๆ ในการตัดต่อวีดีโอ ขั้นตอนเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องทำทุกขั้นตอน หรือข้ามขั้นตอนใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดต่อวีดีโอของคุณเอง
ขั้นตอนตัดต่อคือ
1.Capture (จับภาพจากกล้อง/ดึงข้อมูลวีดีโอจากแผ่น CD/DVD)
2.Edit (แก้ไข/ตัดต่อ)
3.Effect (ใส่เอ็ฟเฟ็กต์)
4.Overlay (ทำภาพซ้อน)
5.Title (ใส่ตัวหนังสือ)
6.Audio (ใส่ดนตรีประกอบ/บันทึกเสียงบรรยาย)
7.Share (บันทึกวีดีโอที่ตัดต่อแล้ว ลงสื่อต่างๆ)
ขั้นตอนต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น สามารถข้ามไปยังส่วนอื่นได้ เช่น อาจจะไปใส่ดนตรีประกอบก่อน แล้วมาใส่ตัวหนังสือภายหลังก็ได้ หรือเมื่อตัดต่อเสร็จในข้อ 2 แล้วก็อาจจะไปเลือกข้อ 7 เพื่อเขียนลงแผ่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกขั้นตอน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตัดต่อวีดีโออย่างไร และต้องทำอะไรบ้างในการตัดต่อ
ขั้นตอนต่างๆ ในการตัดต่อวีดีโอ
เมื่อเปิด project ใน Ulead แล้ว ในขั้นตอน Capture นี้ คุณสามารถที่จะบันทึกวีดีโอจากกล้องวีดีโอดิจิตอลเป็นไฟล์ลงในคอมพิวเตอร์ได้ วีดีโอที่บันทึกจากกล้องลงคอมพิวเตอร์นั้น สามารถที่จะบันทึกเป็นไฟล์เพียงไฟล์เดียว หรือให้แยกเป็นไฟล์ได้หลายๆ ไฟล์โดยอัตโนมัติ และในขั้นตอนการจับภาพนี้ นอกจากคุณจับภาพวีดีโอแล้วยังสามารถที่จะบันทึกภาพจากวีดีโอเป็นภาพนิ่งได้อีกด้วย
ขั้นตอนการแก้ไขและ Timeline นี้ เป็นจุดสำคัญของการใช้ Ulead VideoStudio ในขั้นตอนนี้คุณสามารถที่จะเรียงลำดับคลิปวีดีโอ ที่ถ่ายมาแต่ไม่ได้เรียงลำดับเหตุการณ์กัน ก็มาเรียงลำดับเหตุการณ์ในขั้นตอนนี้ หรือแทรกคลิปวีดีโออื่นๆ เข้ามาในกระบวนการตัดต่อ เช่น หลังจากที่คุณจับภาพมาจากกล้องแล้ว เห็นว่าคลิปวีดีโอที่มีอยู่ในเครื่อง เหมาะสม น่าที่จะนำมาแทรกในบางช่วงของวีดีโอที่คุณกำลังตัดต่อ ก็สามารถทำได้ กรณีที่มีคลิปวีดีโอเพียงไฟล์เดียว เช่น จับภาพวีดีโอมาเป็นไฟล์เดียว ไม่ได้แยกไฟล์เป็นหลายๆ ส่วน ก็สามารถตัดแยก scene วีดีโอได้ เพื่อใส่เอ็ฟเฟ็กต์ระหว่าง scene ลบคลิปวีดีโอที่ไม่ต้องการออก ตัดคลิปวีดีโอบางส่วนที่ถ่ายเสียหรือไม่ต้องการออก และการใส่วีดีโอฟิลเตอร์ (เช่น การใส่ตัวฟิลเตอร์ฝนตกในคลิปวีดีโอ ทำให้คลิปวีดีโอนั้นดูเหมือนมีฝนตกจริงๆ ) ก็สามารถทำได้ในขั้นตอนนี้เช่นกัน
ในขั้นตอนนี้ ให้คุณสามารถใส่ทรานสิชั่น (transition) ระหว่างคลิปวีดีโอใน project ซึ่งใน Ulead นี้จะมีกลุ่มของทรานสิชั่นต่างๆ ให้เลือกอย่างมากมายใน Library
ทรานสิชั่น เป็นเอ็ฟเฟ็กต์ที่ใส่ไว้ในระหว่างคลิป ทำให้วีดีโอดูน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น ฉากที่ค่อยๆ จางหายไปจนมืด แล้วก็มีฉากถัดไปที่จางแล้วค่อยๆ ชัดเจนขึ้น หรือ ในระหว่างที่มีการเปลี่ยนฉากนั้น จะมีภาพซ้อนกันของทั้งสองฉาก เป็นต้น นี่เป็นการใส่ทรานสิชั่นนั่นเอง
ขั้นตอนนี้เป็นการซ้อนคลิปวีดีโอบนคลิปวีดีโอที่มีอยู่ เหมือนกับที่เราดูโทรทัศน์ ที่มีการสัมภาษณ์บุคคลเกี่ยวกับดารา แล้วก็มีกรอบเล็กๆ เป็นภาพของดาราที่กำลังดูบุคคลอื่นพูดถึงตนเองอยู่
ใส่ตัวหนังสือในวีดีโอ เช่น ชื่อเรื่องวีดีโอ แสดงชื่อบุคคล หรือตัวหนังสือปิดท้ายวีดีโอ ใครถ่ายทำ ถ่ายเมื่อไหร่ ที่ไหน เป็นต้น สามารถที่จะสร้างตัวหนังสือแบบเคลื่อนไหวได้ มีมากมากหลายแบบ เช่น ตัวหนังสือลอยจากจอภาพด้านล่างขึ้นไปด้านบน เหมือนกับตัวหนังสือเมื่อดูภาพยนตร์ตอนจบ หรือจะวิ่งจากด้านขวามือมาซ้ายมือ หรือจะเลือกชุดสำเร็จรูปจาก Library ก็ได้
ขั้นตอนนี้สำหรับใส่ดนตรีประกอบวีดีโอ สามารถเลือกเพลงจากแผ่น CD แล้วบันทึกมาเป็นไฟล์ทำดนตรีประกอบได้ บันทึกเสียงบรรยายวีดีโอ รวมทั้งการปรับแต่งเสียงต่างๆ เช่น ลดเสียงในวีดีโอต้นฉบับในบางช่วงขณะที่บันทึกเสียงบรรยายลงไป เพื่อให้ได้ยินเสียงบรรยายชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรือปรับระดับเสียงของดนตรีประกอบ เป็นต้น
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อตัดต่อวีดีโอเสร็จแล้ว ก็จะเป็นสร้างไฟล์วีดีโอสำหรับเผยแพร่ผลงาน สามารถทำได้หลายแบบ เช่น สร้างไฟล์วีดีโอสำหรับเผยแพร่ผลงานบนเว็บ เขียนวีดีโอที่ตัดต่อเสร็จแล้วกลับลงเทปอีกครั้ง เขียนลงแผ่น CD เป็น VCD หรือเขียนลง DVD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น